เมื่อสัปดาห์ก่อนเรากับครอบครัวได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่เขาหน่อ อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์มา ด้วยเพราะได้ยินว่าเดี๋ยวนี้มีการจัดมุมถ่ายรูปที่สวยงามและมีอะไรให้น่าชมมากกว่าแต่ก่อน และยิ่งได้ยินข่าวเกี่ยวกับพญาวานรที่ตัวเท่าคนก็ยิ่งเกิดความสนใจ อยากรู้ว่าจะใหญ่จริงหรือเปล่า อย่างมากก็ตัวเท่าเด็กล่ะนะเราว่า เพราะถ้าตัวเท่าผู้ใหญ่ก็คงเป็นแม่มาแล้ว วันนี้เราก็จะพาทุกคนมาชมความงดงามของเขาหน่อกันค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามชมกันเลย
ระยะเวลาในการเดินทางมายังเขาหน่อ
เราออกเดินทางมาจากจังหวัดชัยนาท ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็มาถึงแล้ว แต่หากใครเดินทางมาจากกรุงเทพมหานครก็ควรออกมาสักประมาณตี 3 – ตี 4 กำลังดี เพราะจากกรุงเทพมหานครไปถึงเขาหน่อ ระยะทางจะประมาณ 277 กิโลเมตร กว่าจะมาถึงเขาหน่อก็ 6 โมงเช้าพอดี การมาเขาหน่อในยามเช้าตรู่ หากเป็นในฤดูฝนและฤดูหนาวคุณจะได้ภาพของหมอกที่มาปกคลุมตามซอกเขาสวยงามราวกับอยู่ต่างประเทศแน่นอนค่ะ คนก็ไม่เยอะด้วย แต่พอดีเรามัวแต่แวะนู่นนี่ก็เลยมาถึงช่วงสายหน่อย แต่มาช่วยสายก็สวยไปอีกแบบ ได้ถ่ายรูปในบรรยากาศชิลล์ ๆ ดี
ทางเข้าเขาหน่อจะอยู่อีกฝั่งของถนนช่วงขามาหากคุณมาจากกรุงเทพมหานครให้สังเกตภูเขาหินปูนริมถนนฝั่งของคุณ ขับผ่านวัดไปเล็กน้อยจะเจอป้อมยาม ตรงจุดนั้นจะมีให้ยูเทิร์นกลับรถ คุณก็กลับรถตรงนั้นล่ะค่ะ เพียงไม่กี่ร้อยเมตรก็จะเจอซุ้มประตูทางเข้าวัดเขาหน่อขนาดใหญ่แล้ว ให้ตรงเข้าไปอีกหน่อยแล้วจะเจอกับจุดเช็กอินเขาหน่อเลย
จุดถ่ายรูปหลักของเขาหน่อ
จุดเช็กอินเขาหน่อที่ผู้คนนิยมมาถ่ายรูปจะเป็นป้าย “เขาหน่อ เขาแก้ว”ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่งนาผืนกว้างสีทองที่ฉากหลังเห็นเป็นเขาหน่อซึ่งก็คือภูเขาหินปูนที่มีขนาดใหญ่กว้างสวยงามราวกับอยู่เมืองจีน คุณสามารถจอดรถไว้ริมฟุตบาทและมายังจุดเช็กอินได้เลย จะมีสะพานไม้ที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างเพื่อให้สามารถเดินมาถ่ายรูปสวย ๆ กลางทุ่งนาได้ และยังมีฐานไม้ขนาดสูงที่ให้ขึ้นไปนั่งพักผ่อนและมีตาข่ายที่เอาไว้นั่งเล่นนอนเล่นชมความงดงามของเขาหน่อได้อีกด้วย
สำหรับใครที่อยากจะเที่ยวชมดูลิงก็ขับรถเลยจากจุดเช็กอินหลักของเขาหน่อมาเล็กน้อย จุดชมลิงจะอยู่บริเวณลานวัดเขาหน่อ สามารถขึ้นไปพิชิตยอดเขาหน่อได้ด้วยหากคุณเตรียมสุขภาพมาพร้อมลุยเพราะข้างบนสวยมาก แต่หากจะชมลิงก็ควรมานั่งชมกันช่วงบ่ายหน่อยนะคะ เพราะลิงก็กลัวร้อนเหมือนกัน ยิ่งจะเจอพญาวานรตอนนี้ยิ่งยากเพราะชาวบ้านบอกว่าพอมีข่าวครึกโครมออกมา นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศก็แห่มากันเยอะจนพญาวานรไม่กล้าออกมาอีกเลย และนอกจากนี้ คุณยังสามารถอยู่ชมค้างคาวที่จะออกมาหากินจากถ้ำบนเขาหน่อได้ในเวลาตะวันตกดินอีกด้วย เป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ต้องมาเห็นสักครั้ง
จุดให้บริการนักท่องเที่ยวเขาหน่อ
มาเขาหน่อใครว่าจะต้องอดต้องหิวข้าว ไม่จำเป็นแล้วค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้เขาหน่อมีคาเฟ่มากมายที่คุณสามารถไปนั่งดื่มกาแฟและรับประทานอาหารชมความงดงามของเขาหน่อได้อย่างสวยงามมากมายไม่ว่าจะเป็นระหว่างเขาคาเฟ่ ,ร้านละเอียดคาเฟ่ หรือครัวเขาหน่อคาเฟ่ และยังมีสตรีทฟู้ดขายอาหารมากมายอยู่ริมฟุตบาทตรงจุดเช็กอินหลักของเขาหน่อด้วย ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ส้มตำ เครื่องดื่มอร่อย ๆ ให้เลือกสรรอิ่มอร่อยนั่งโต๊ะหลังร้านชมความงดงามของเขาหน่อพร้อมลมเย็น ๆ ที่รับโอโซนได้อย่างเต็มที่ซึ่งคุณไม่สามารถหาได้ในเมืองใหญ่ ร้านอาหารจะเริ่มมาตั้งกันเยอะก็ประมาณ 11 โมงค่ะ
เขาหน่อยังมีของฝากที่ระลึกให้เลือกซื้อกลับไปให้คนที่คุณรักมากมาย และเราก็บังเอิญไปเห็นคุณลุงท่านหนึ่งที่มานั่งขายตั๊กแตนที่สานด้วยมือเอง ใครที่มาเขาหน่อช่วยซื้อและให้กำลังใจกับความมานะพยายามของท่านหน่อยนะคะ ราคาเพียง 20 บาทเท่านั้น เราชอบป้ายที่ท่านเขียนไว้ว่า “ทุกบาทมีค่า ให้มาสาธุ”มาก เป็นคำสอนเตือนใจคนสมัยนี้เป็นอย่างดีเลย
#เขาหน่อ นครสวรรค์ #ที่เที่ยวนครสวรรค์ #เที่ยวไทยไปไหนดี