แลนด์มาร์กในญี่ปุ่นที่คุณไม่ควรพลาด หนีร้อนจากไทยบ้านเรา ไปเที่ยวที่อากาศเย็นๆ อย่างประเทศญี่ปุ่นกันดีกว่าค่ะ ว่าแต่จะเลือกไปเที่ยวเมืองไหนนกันดี หรือว่าไปเที่ยวช่วงไหนถึงจะเลิศ งั้นเรามาลองดูทริปตัวอย่างกันดีกว่าว่ามีแลนด์มาร์คที่ไหน ที่เหมาะกับการไปชิลพักผ่อนกันบ้าง
ซากะ
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเมืองนี้มาบ้างจากซีรี่ย์ เรื่องซากะ ของช่อง GDH ที่ถ่ายทอดความสวยงามและความเรียบง่ายของเมืองซากะแห่งนี้ โดยในวันนี้เราจะขอแนะนำที่เที่ยวที่ทุกคนสามารถเดินทางมาเที่ยวชมได้กันที่งานบอลลูนนานาชาติที่จะมีการจัดขึ้นในทุกปี ที่เมืองซากะ
ซึ่งภายในจะเต็มไปด้วยบอลลูนขนาดใหญ่มากมายกว่า 100 ประเทศต่างๆทั่วโลกที่ส่งเข้าแข่งขัน ทำให้บรรยากาศในงานวันนั้นจะเต็มไปด้วยความคึกคักมากมาย ที่นักท่องเที่ยวรวมไปถึงคนญี่ปุ่นต่างให้ความสนใจและเดินทางมาเที่ยวชมเทศกาลนี้ในทุกๆปีที่เมืองซากะ หากใครที่ได้มาตรงกับช่วงเทศกาลนี้ก็สามารถเดินทางมาเที่ยวชมกันได้เลย รับรองว่าคุณจะตื่นตาตื่นใจและถ่ายรูปไปกับความสวยงามของเหล่าบอลลูนยักษ์ได้อย่างแน่นอน
ปราสาทฮิเมจิ
ปราสาทฮิเมจิ หรือรู้จักในชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ประสาทนกกระสาขาว เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวของประเทศญี่ปุ่น ที่เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กอันน่าสนใจ เนื่องจากปราสาทแห่งนี้เป็น 1 ใน 3 ของปราสาทที่มีความสวยงามอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และมีความเก่าแก่ถึง 400 กว่าปี ปราสาทแห่งนี้รอดพ้นจากการถูกโจมตีในสมัยสงครามโลก นอกจากนี้ยังได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก และเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นที่มีความสวยงามและความโดดเด่น จนทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางมาเที่ยวชมทัศนียภาพไปพร้อมกับการสวมชุดกิโมโน เพื่อถ่ายรูปกับบรรยากาศโดยรอบได้อย่างเพลิดเพลิน และถัดจากปราสาทฮิเมจิไปไม่ไกล มีสวนโคโคเอง (Kokoen Garden) เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่น สวยงามไม่แพ้สวนในศาลเจ้าต่างๆ ในเกียวโต และในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนนี้ได้
อุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ
อุทยานแห่งชาติโกะ โทยะ สถานที่อันน่าสนใจและดึงดูดสายตาจากเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากภายในจะเต็มไปด้วยเรียวกัง และสถานที่แช่ออนเซ็นมากมาย จึงทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางกันมาทั้งแบบครอบครัว และคู่รัก เพื่อมานอนพักชมวิวท่ามกลางหุบเขาอันสวยงาม รวมไปถึงมาลองแช่ออนเซ็นกันที่ โจซังเคออนเซ็น ในบริเวณอุทยาน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองซับโปโรไม่มากนัก เพียงใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก็สามารถเดินทางมาทอดกายแช่ลงในออนเซ็นท่ามกลางบรรยากาศสวยงามของธรรมชาติได้แล้ว
#แลนด์มาร์กญี่ปุ่น #ที่เที่ยวญี่ปุ่นห้ามพลาด #แนะนำที่เที่ยวญี่ปุ่น